เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน เตรียมตัวอย่างไร

การเปลี่ยนสีรถเป็นสิ่งที่เจ้าของรถหลายคนสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้รถดูใหม่ขึ้นและมีสไตล์ตามที่ชอบแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้รถคันเดิมมีความแตกต่างและโดดเด่นอีกด้วย แต่สิ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือการแจ้งเปลี่ยนสีรถต่อกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีข้อกำหนดทางกฎหมายไว้โดยชัดเจน หากคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนสีรถหรือแม้แต่การติดสติกเกอร์สีต่าง ๆ การรู้ว่า เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน นี้จะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงปัญหาด้านกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

เปลี่ยนสีรถ ทำไมต้องแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบก

การเปลี่ยนสีรถมีผลต่อข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งข้อมูลนี้มีความสำคัญเพราะจะใช้ในการตรวจสอบและระบุตัวตนของรถในกรณีต่าง ๆ เช่น การตรวจสอบโดยตำรวจจราจร การเช็คข้อมูลประกัน หรือการจดทะเบียนทรัพย์สิน การที่มีสีของรถตรงกับที่ลงทะเบียนไว้จะช่วยให้การตรวจสอบเหล่านี้เป็นไปได้ง่ายขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสีตัวถังรถ ก็จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบเพื่ออัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

 

เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน

ถ้าให้ตอบคำถามว่า เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ระบุว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงสีตัวถังของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำสีใหม่หรือติดฟิล์มสี เช่น การหุ้มด้วยฟิล์มกันรอยหรือคาร์บอน หากสีใหม่ของรถแตกต่างจากข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ เจ้าของรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน นับจากวันที่เปลี่ยนสี หากไม่แจ้งภายในเวลาที่กำหนด อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท ดังนั้น การเปลี่ยนสีรถไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือทั้งหมด อย่าลืมแจ้งให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน เพื่อให้ข้อมูลรถของคุณเป็นปัจจุบัน และหลีกเลี่ยงค่าปรับ

 

ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

หากคุณเปลี่ยนสีรถแล้วต้องการแจ้งเปลี่ยนสีที่กรมการขนส่งทางบก ขั้นตอนในการแจ้งทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้:

  • เตรียมเอกสารที่จำเป็น
    1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถ)
    2. บัตรประชาชนของเจ้าของรถ (หรือสำเนาในกรณีที่มีตัวแทน)
    3. หลักฐานการเปลี่ยนสี เช่น ใบเสร็จการทำสีใหม่ หรือใบเสร็จการติดฟิล์มสี
  • ไปที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้าน
    นำเอกสารทั้งหมดไปยังสำนักงานขนส่งใกล้บ้านคุณ หรือเลือกใช้บริการในเขตกรุงเทพฯ ที่สำนักงานขนส่งทางบกที่สะดวกที่สุด
  • ยื่นคำร้องเพื่อแจ้งเปลี่ยนสีรถ
    เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและข้อมูล แล้วทำการอัปเดตข้อมูลในระบบให้สอดคล้องกับสีใหม่ของรถ

การดำเนินการนี้สามารถทำได้ในเวลาไม่นาน และถือว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนสีรถของคุณนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

กรณีที่ไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถ

การเปลี่ยนสีบางลักษณะอาจไม่จำเป็นต้องแจ้งกับกรมการขนส่งทางบก เช่น การเปลี่ยนสีเฉพาะจุดเล็ก ๆ ที่ไม่เกิน 30% ของพื้นที่รถทั้งหมด กรณีเช่นนี้รวมถึงการติดฟิล์มสีเฉพาะฝาถังน้ำมัน ติดสติกเกอร์โลโก้ หรือลายเล็ก ๆ ที่ไม่ส่งผลต่อสีหลักของตัวถัง โดยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เกิน 30% นี้จะไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนสีในเชิงกฎหมาย จึงไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนสี

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

  • การเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์ม Wrap ต้องแจ้งหรือไม่?
    ใช่ หากการ Wrap ฟิล์มสีครอบคลุมตัวรถทั้งหมดหรือเกิน 30% ของพื้นผิวตัวถัง จำเป็นต้องแจ้งเปลี่ยนสี เพราะการ Wrap ถือเป็นการเปลี่ยนสีตัวถังในเชิงกฎหมาย
  • กรณีรถติดไฟแนนซ์ต้องทำอย่างไร?
    หากรถของคุณยังติดไฟแนนซ์อยู่ สามารถแจ้งเปลี่ยนสีได้ แต่ต้องขออนุญาตจากไฟแนนซ์ก่อน โดยต้องมีการนำสำเนาสมุดทะเบียนมาใช้เพื่อการแจ้งเปลี่ยนสี
  • การเปลี่ยนสีล้อแม็กซ์หรืออะไหล่เฉพาะส่วนต้องแจ้งไหม?
    การเปลี่ยนสีล้อแม็กซ์หรืออะไหล่ที่ไม่เกี่ยวกับสีหลักของตัวถัง ไม่จำเป็นต้องแจ้งเปลี่ยนสีที่กรมการขนส่ง

 

ข้อดีของการแจ้งเปลี่ยนสีรถตามกฎหมาย

การแจ้งเปลี่ยนสีรถให้ถูกต้องตามกฎหมายมีข้อดีหลายประการ เริ่มจาก เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน ซึ่งช่วยให้คุณเดินทางและใช้งานรถได้อย่างสบายใจ ดังนี้:

  • เลี่ยงค่าปรับ
    หากคุณแจ้งเปลี่ยนสีรถตามกำหนดเวลาที่ระบุในกฎหมาย จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกปรับหากถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่
  • สะดวกในการตรวจสอบและรับรองเอกสาร
    ในกรณีที่มีการซื้อขายหรือทำประกัน การมีข้อมูลที่ตรงตามความเป็นจริงในระบบจะช่วยให้การตรวจสอบและรับรองเอกสารง่ายขึ้น ทั้งในกรณีตรวจสภาพรถหรือการประเมินราคาจากบริษัทประกัน
  • สร้างความเชื่อมั่นในการขับขี่
    การทำตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถจะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องการตรวจสอบสีรถจากเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้การตรวจสอบ

 

ค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

ค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถมักจะไม่แพง โดยจะขึ้นอยู่กับสำนักงานขนส่งแต่ละแห่ง ค่าใช้จ่ายหลักจะเป็นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในทะเบียนรถ โดยอยู่ที่ประมาณหลักร้อยบาทเท่านั้น แต่ควรเตรียมงบประมาณเผื่อไว้เล็กน้อยสำหรับการทำเอกสารเพิ่มเติม หากมีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมเจ้าหน้าที่จะชี้แจงให้ทราบ

 

เปลี่ยนสีรถ ต้องจองคิวไหม 

เมื่อคุณตัดสินใจเปลี่ยนสีรถแล้ว หนึ่งในคำถามที่หลายคนอาจสงสัยคือ ต้องจองคิวเพื่อแจ้งเปลี่ยนสีรถที่กรมการขนส่งทางบกหรือไม่? การจองคิวก่อนเข้ารับบริการนี้สามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาและทำให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีคนใช้บริการมาก เรามาดูรายละเอียดกันว่าการจองคิวจำเป็นหรือไม่ และควรทำอย่างไรบ้าง

 

ทำไมต้องจองคิวล่วงหน้า?

  1. ลดเวลาในการรอ
    หากคุณเลือกจองคิวล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก จะช่วยลดเวลารอในการเข้ารับบริการ โดยไม่ต้องนั่งรอคิวนาน โดยเฉพาะช่วงที่มีคนใช้บริการเยอะ เช่น วันต้นเดือนหรือวันสิ้นเดือน การจองคิวจะทำให้คุณสามารถระบุช่วงเวลาที่สะดวกและเข้ารับบริการได้ตรงเวลา
  2. จัดการเวลาได้สะดวกขึ้น
    สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด การจองคิวช่วยให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ดีขึ้น โดยที่คุณสามารถเลือกเวลาที่สะดวกในแต่ละวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เวลามากเกินไปในการดำเนินการ
  3. ลดความวุ่นวายในการเข้ารับบริการ
    ระบบจองคิวล่วงหน้าจะช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการคิวได้อย่างเป็นระบบ ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งจะรวดเร็วกว่าการไปเข้าคิวโดยไม่ได้จองล่วงหน้า

 

วิธีการจองคิวแจ้งเปลี่ยนสีรถ

  1. จองคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
    กรมการขนส่งทางบกมีแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจองคิวล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน โดยสามารถดาวน์โหลดแอปและทำการเลือกวันที่และเวลาที่ต้องการจะเข้ารับบริการได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกและใกล้บ้านได้อีกด้วย
  2. จองคิวผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
    หากไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชัน คุณสามารถเข้าไปจองคิวผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้ โดยเลือกหัวข้อการจองคิวบริการและกรอกข้อมูลเบื้องต้น หลังจากนั้นเลือกบริการ “แจ้งเปลี่ยนสีรถ” จากนั้นเลือกวันที่และเวลาที่สะดวก
  3. โทรสอบถามเพื่อจองคิวล่วงหน้า
    สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดใช้เทคโนโลยี ยังสามารถโทรติดต่อสำนักงานขนส่งที่ต้องการเพื่อสอบถามและจองคิวล่วงหน้าได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจองคิวและแนะนำขั้นตอนการดำเนินการเพิ่มเติม

 

สิ่งที่ควรเตรียมเมื่อต้องเข้ารับบริการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

นอกจากการจองคิวแล้ว ยังมีเอกสารที่ควรเตรียมให้ครบถ้วนเพื่อให้การแจ้งเปลี่ยนสีรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่น สำเนาทะเบียนรถ สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารการจดทะเบียนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมเตรียมภาพถ่ายหรือเอกสารรับรองการเปลี่ยนสีจากอู่หรือร้านที่เปลี่ยนสีรถให้ด้วย

 

เปลี่ยนสีรถใหม่ต้องแจ้งประกันไหม

เมื่อคุณเปลี่ยนสีรถใหม่ สิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือการแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบ เพราะการเปลี่ยนสีรถไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามและภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ยังอาจมีผลต่อความคุ้มครองจากกรมธรรม์อีกด้วย หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นต้องแจ้งบริษัทประกันหรือไม่ และจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ดังนั้นเราจะมาพูดถึงเหตุผลและวิธีการแจ้งประกันหลังจากเปลี่ยนสีรถ รวมถึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ควรรู้เพื่อให้การประกันยังคงคุ้มครองอย่างครบถ้วน

 

ทำไมการเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งบริษัทประกัน?

การเปลี่ยนสีรถมีผลต่อข้อมูลที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันภัย เพราะกรมธรรม์ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ของรถเอาไว้อย่างครบถ้วน เช่น สีรถ ประเภทรถ ยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน เป็นต้น หากคุณเปลี่ยนสีรถโดยไม่ได้แจ้งประกัน อาจทำให้ข้อมูลในกรมธรรม์ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเคลมประกัน เพราะบริษัทประกันจำเป็นต้องยืนยันว่ารถที่ได้รับความคุ้มครองคือรถที่มีลักษณะตรงตามกรมธรรม์

 

ถ้าไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถกับบริษัทประกัน จะมีผลอย่างไร

หากคุณเปลี่ยนสีรถแล้วไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน อาจเกิดผลกระทบในหลายด้าน เช่น:

  1. ความไม่ครบถ้วนในการคุ้มครอง
    เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือมีการเรียกร้องเคลม การที่ข้อมูลไม่ตรงกันอาจทำให้บริษัทประกันพิจารณาว่าความคุ้มครองไม่ครบถ้วน หรืออาจไม่ได้รับการเคลมตามที่ควรจะเป็น
  2. ปัญหาในการเคลมความเสียหาย
    ในบางกรณี บริษัทประกันอาจพิจารณาว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้อยู่ในขอบเขตความคุ้มครอง เช่น หากรถถูกขโมยหรือตกเป็นเป้าหมายการโจรกรรม บริษัทประกันอาจไม่สามารถยืนยันตัวตนของรถได้อย่างชัดเจน
  3. ปัญหาด้านกฎหมาย
    กรณีที่การเปลี่ยนสีรถทำให้ข้อมูลการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกไม่ตรงกับกรมธรรม์ บริษัทประกันอาจอ้างได้ว่าคุณไม่ได้รายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้การเคลมไม่ได้รับการพิจารณา
  4. เพิ่มความยุ่งยากในการเคลมประกัน
    หากบริษัทประกันตรวจพบความแตกต่างระหว่างข้อมูลในกรมธรรม์กับลักษณะจริงของรถในระหว่างกระบวนการเคลม คุณอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและส่งเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้กระบวนการเคลมล่าช้าและยุ่งยากมากขึ้น

 

ขั้นตอนการแจ้งบริษัทประกันเมื่อเปลี่ยนสีรถ

การแจ้งบริษัทประกันเมื่อเปลี่ยนสีรถสามารถทำได้ง่าย โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  1. ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทประกัน
    เริ่มต้นโดยการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทประกันผ่านทางโทรศัพท์หรือแอปพลิเคชัน (หากมี) แจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนสีรถ และสอบถามขั้นตอนในการอัปเดตข้อมูลในกรมธรรม์
  2. เตรียมเอกสารประกอบการแจ้งเปลี่ยนสี
    ในการอัปเดตข้อมูลอาจต้องใช้เอกสาร เช่น สำเนาทะเบียนรถที่เปลี่ยนสีแล้วหรือภาพถ่ายของรถที่เปลี่ยนสีเพื่อให้บริษัทประกันได้ตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง
  3. ตรวจสอบและยืนยันการเปลี่ยนแปลงในกรมธรรม์
    หลังจากที่บริษัทประกันได้รับข้อมูลและเอกสารครบถ้วน ควรตรวจสอบว่าได้ทำการอัปเดตข้อมูลในกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาในการเคลมประกันในอนาคต
  4. รับใบรับรองหรือหลักฐานการอัปเดตข้อมูล
    เมื่อแจ้งบริษัทประกันเรียบร้อยแล้ว ควรขอใบรับรองหรือหลักฐานการอัปเดตข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน และเก็บไว้เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์

 

การเปรียบเทียบการคุ้มครองของบริษัทประกันต่าง ๆ เมื่อเปลี่ยนสีรถ

หากคุณต้องการเปลี่ยนสีรถและกำลังหาบริษัทประกันที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เรามาลองเปรียบเทียบการคุ้มครองของแต่ละบริษัทกันดู ซึ่งบางบริษัทอาจมีเงื่อนไขพิเศษในการเพิ่มความคุ้มครองสำหรับการเปลี่ยนสีรถ ตัวอย่างเช่น:

  • บางบริษัทอาจคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับสีรถใหม่ และจะเพิ่มความคุ้มครองที่สอดคล้องกับสีใหม่
  • บางบริษัทอาจมีโปรแกรมพิเศษ สำหรับผู้ที่มีการเปลี่ยนสีรถบ่อย โดยให้สิทธิพิเศษในการเคลมประกันโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อมีการเปลี่ยนสี
  • เงื่อนไขการคุ้มครองที่ต่างกันในกรณีเปลี่ยนสีใหม่ โดยบางบริษัทอาจกำหนดสีเฉพาะที่ได้รับการคุ้มครอง และอาจจะยกเว้นความคุ้มครองบางประเภทสำหรับสีที่ไม่อยู่ในรายการคุ้มครองของบริษัท

การเปรียบเทียบนี้สามารถช่วยให้คุณเลือกบริษัทประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและเงื่อนไขเฉพาะของการเปลี่ยนสีรถของคุณ

 

คำแนะนำในการแจ้งเปลี่ยนสีรถเพื่อประกันครอบคลุมอย่างครบถ้วน

การแจ้งเปลี่ยนสีรถกับบริษัทประกันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้กรมธรรม์ครอบคลุมการคุ้มครองที่ครบถ้วนและไม่มีปัญหาในการเคลมในอนาคต ลองดูคำแนะนำเหล่านี้เพื่อให้การแจ้งเปลี่ยนสีรถเป็นไปอย่างราบรื่น:

  • เลือกสีที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับ
    บางครั้งบริษัทประกันอาจมองว่าสีที่โดดเด่นเกินไปอาจเป็นเป้าหมายของการโจรกรรม เช่น สีทองหรือสีส้มสด ควรเลือกสีที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับเพื่อลดความเสี่ยง
  • เก็บใบเสร็จรับเงินและเอกสารการเปลี่ยนสี
    เอกสารหรือใบเสร็จจากอู่ที่ทำการเปลี่ยนสีควรเก็บไว้อย่างดี เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ามีการเปลี่ยนสีรถตามกฎหมายและสามารถแสดงให้บริษัทประกันเห็นได้
  • ติดตามสถานะการอัปเดตในกรมธรรม์
    หากคุณแจ้งเปลี่ยนสีรถกับบริษัทประกัน ควรติดตามว่าเอกสารและข้อมูลได้รับการอัปเดตในกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนสีที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
    การเปลี่ยนสีรถควรทำตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก และหลีกเลี่ยงการใช้สีที่ผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาต เช่น สีที่อาจสับสนกับรถของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านกฎหมา

 

สรุป เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน

การ เปลี่ยนสีรถยนต์ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยการ เปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน คือต้องแจ้งเปลี่ยนสีภายใน 7 วันหลังการเปลี่ยนสีจะช่วยให้การใช้งานรถของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย หากคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนสีรถหรือติดฟิล์ม Wrap ก็ควรเตรียมเอกสารและงบประมาณสำหรับการแจ้งเปลี่ยนสีรถให้พร้อมเพื่อให้การเปลี่ยนสีรถเป็นไปได้อย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาในอนาคต

 

อ่านบทความเกี่ยวกับเปลี่ยนสีรถเพิ่มเติม

กฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *