การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง

การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งขนส่งยังไง แจ้งภายในกี่วัน

สำหรับคนที่กำลังวางแผนเปลี่ยนสีรถ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพื่อความสวยงาม เสริมดวง หรือเพื่อให้รถดูใหม่และทันสมัยขึ้น สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถต้องรู้คือการเปลี่ยนสีรถไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกสีหรือจ่ายค่าทำสีเท่านั้น แต่ยังมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติด้วย หนึ่งในนั้นคือการแจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบก บทความนี้จะอธิบายแบบละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เหตุผลที่ต้องแจ้ง การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง ทำยังไง เอกสารที่ต้องใช้ ไปจนถึงคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ มาดูกันเลย

 

ทำไมต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถ?

หลายคนอาจสงสัยว่าเปลี่ยนสีรถแล้วทำไมต้องยุ่งยากแจ้งขนส่งด้วย? นี่คือเหตุผลหลัก:

  1. เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย
    ในประเทศไทย การเปลี่ยนสีรถถือเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะของรถที่ต้องแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบก หากไม่แจ้ง อาจถูกปรับเมื่อตำรวจตรวจพบ
  2. เพื่ออัพเดตข้อมูลในสมุดทะเบียนรถ
    เมื่อเปลี่ยนสีรถ ข้อมูลสีของรถในสมุดคู่มือจดทะเบียนต้องตรงกับสีจริงของรถ หากข้อมูลไม่ตรงกัน อาจมีปัญหาในกรณีที่ต้องการขายต่อหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับรถ
  3. เพื่อป้องกันการสับสนหรือปัญหาทางคดี
    สีรถเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ระบุลักษณะเฉพาะของรถ หากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับกฎหมาย เช่น รถหาย หรือเกี่ยวข้องในคดี สีรถที่ไม่ตรงกับทะเบียนอาจทำให้เกิดความสับสนหรือปัญหาในกระบวนการตรวจสอบ

การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง ภายในกี่วัน?

ตามกฎหมาย เจ้าของรถต้องแจ้ง การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง ต่อกรมการขนส่งทางบก ภายใน 7 วันนับจากวันที่เปลี่ยนสีรถเสร็จสิ้น หากเกินกำหนด อาจถูกปรับตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

คำแนะนำ:

  • หากเปลี่ยนสีรถในอู่หรือร้านรับทำสี ควรสอบถามและวางแผนแจ้งขนส่งล่วงหน้า เพื่อป้องกันการล่าช้า
  • เตรียมเอกสารให้ครบและไปแจ้งทันทีที่รถเสร็จจากการทำสี

ขั้นตอน การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง

การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง กับกรมการขนส่งทางบกไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้

1. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ ได้แก่:

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
    ต้องเป็นเล่มจริง ไม่ใช่สำเนา
  • บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
    ใช้บัตรตัวจริง พร้อมสำเนา
  • หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ
    เช่น ใบเสร็จหรือเอกสารรับรองจากอู่ทำสี
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ไปดำเนินการเอง)
    พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

2. เดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง

นำรถไปพร้อมเอกสารที่เตรียมไว้ คุณสามารถเลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกที่สุดได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่เดียวกับที่จดทะเบียนรถ

3. ตรวจสอบและกรอกแบบฟอร์ม

เจ้าหน้าที่จะให้คุณกรอกแบบฟอร์มแจ้งการเปลี่ยนสีรถ โดยคุณต้องระบุสีใหม่และรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง

4. ชำระค่าธรรมเนียม

หลังจากตรวจสอบเอกสาร เจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม โดยปกติจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50-100 บาท

5. รับสมุดทะเบียนที่อัพเดตข้อมูลใหม่

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ข้อมูลสีใหม่ของรถจะถูกบันทึกลงในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ คุณสามารถนำรถไปใช้งานต่อได้ทันที

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง (FAQ)

1. เปลี่ยนสีรถแบบติดสติกเกอร์ (Wrap) ต้องแจ้งไหม?

ใช่ การเปลี่ยนสีรถด้วยสติกเกอร์ (Car Wrapping) ต้องแจ้งขนส่งเช่นกัน หากสีที่เปลี่ยนใหม่มีผลให้รถดูแตกต่างจากสีในทะเบียน

2. ถ้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เช่น เพิ่มลวดลาย ต้องแจ้งหรือไม่?

หากการเพิ่มลวดลายไม่ทำให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น การเพิ่มลายกราฟิกเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องแจ้ง แต่หากเปลี่ยนสีหลักของตัวรถต้องแจ้ง

3. แจ้งเปลี่ยนสีรถออนไลน์ได้ไหม?

ปัจจุบันการแจ้งเปลี่ยนสีรถยังต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งโดยตรง ไม่สามารถทำออนไลน์ได้

4. ถ้าทำสีใหม่แต่เป็นสีเดิม ต้องแจ้งไหม?

ไม่จำเป็นต้องแจ้ง หากทำสีใหม่เป็นสีเดิม เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของรถ

5. การเปลี่ยนสีบางส่วน เช่น ฝากระโปรง ต้องแจ้งหรือไม่?

กรณีเปลี่ยนสีบางส่วน เช่น ฝากระโปรง หรือหลังคา หากสีนั้นครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 30% ของตัวรถ ต้องแจ้งเปลี่ยนสี

6. หากลืมแจ้งเปลี่ยนสีรถภายใน 7 วันต้องทำอย่างไร?

หากเกินกำหนด 7 วัน คุณยังสามารถแจ้งได้ แต่ต้องชำระค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด

การเปลี่ยนสีรถกับกฎหมายที่ต้องรู้

การเปลี่ยนสีรถถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสีหลักของรถหรือการเพิ่มลวดลายบางส่วน ซึ่งตามกฎหมายไทย การเปลี่ยนสีรถเป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้อง การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้ง กรมการขนส่งทางบกเพื่อให้ข้อมูลในทะเบียนรถตรงกับรถที่ใช้อยู่จริง หากไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงสีหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจเสี่ยงต่อการถูกปรับตามกฎหมายได้

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนสีรถ

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนสีรถอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และระเบียบกรมการขนส่งทางบกที่ออกตามมา โดยในมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติรถยนต์ ได้ระบุว่า เจ้าของรถต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถ เช่น สีรถหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน โดยต้องแจ้งภายในระยะเวลา 7 วันหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลง

โทษและบทลงโทษหากไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถ

การไม่แจ้งการเปลี่ยนสีรถอาจทำให้เกิดปัญหาหลายด้าน เช่น การถูกปรับเงินตามกฎหมาย ดังนั้นการไม่แจ้งอาจทำให้เจ้าของรถเสี่ยงต่อการถูกปรับเงินในอัตราไม่เกิน 2,000 บาท ตามข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าข้อมูลในทะเบียนรถไม่ตรงกับสภาพจริงของรถ

นอกจากนี้ หากเจ้าของรถไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงสีรถและเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์บางอย่าง เช่น รถหายหรือต้องการใช้รถในกรณีต่าง ๆ ที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับรถ เช่น ขายรถหรือทำประกันภัย ข้อมูลสีรถที่ไม่ตรงกันกับทะเบียนอาจทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก

การเปลี่ยนสีรถอาจมีผลต่อประกันภัย

การเปลี่ยนสีรถอาจส่งผลต่อการประกันภัยของรถยนต์ในกรณีที่คุณมีการทำประกันภัยอยู่ เพราะบริษัทประกันภัยอาจมีการพิจารณาความเสี่ยงใหม่จากการเปลี่ยนแปลงสีของรถในบางกรณี หากสีของรถเป็นสีนอกเหนือจากที่แจ้งไว้ในกรมการขนส่ง ทางบริษัทประกันภัยอาจเพิ่มอัตราค่าประกัน หรือบางบริษัทอาจมีการปรับเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้แตกต่างไปจากเดิม

คำแนะนำ:

  • ควรแจ้งบริษัทประกันภัยก่อนหรือหลังจากการเปลี่ยนสีรถ เพื่อให้ข้อมูลตรงกันและไม่มีผลกระทบต่อการคุ้มครองจากการประกัน
  • ในบางกรณี การเปลี่ยนสีรถอาจทำให้ค่าประกันลดลงหากบริษัทประกันเห็นว่าเป็นการเพิ่มความปลอดภัยหรือเป็นการปรับให้รถดูทันสมัยขึ้น

ราคาการเปลี่ยนสีรถ

การเปลี่ยนสีรถไม่ใช่เรื่องราคาถูกและต้องพิจารณางบประมาณที่มีให้ดีก่อนการตัดสินใจ อัตราค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัสดุที่ใช้, ประเภทของการทำสี, ร้านทำสีที่เลือก และขนาดของรถยนต์ที่ต้องการเปลี่ยนสี

การเปลี่ยนสีรถด้วยการทำสีใหม่ (Respray)

การทำสีใหม่แบบเต็มระบบหรือที่เรียกว่า respray คือการทำสีใหม่ทั้งคัน โดยใช้สีกระป๋องหรือสีที่มีคุณภาพสูงในการทาทับสีเดิมของรถ ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเปลี่ยนสีรถ

  • ราคาประมาณ: การทำสีรถใหม่ทั้งคันราคาอาจอยู่ระหว่าง 15,000 บาทถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ, คุณภาพของสีที่เลือก และร้านที่ทำสี
  • ข้อดี: สีที่ได้จะมีความคงทนและสวยงาม เนื่องจากการทาสีจะทำให้สีเดิมและความเรียบเนียนของผิวรถดีขึ้น
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง ใช้เวลานานในการทำสี และต้องระมัดระวังเรื่องการดูแลรักษาเพราะอาจมีปัญหาหากไม่ทำสีดีพอ

การเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์มครอบรถ (Car Wrap)

การใช้ ฟิล์มครอบรถ (Car Wrap) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาค่อนข้างคุ้มค่ามากกว่าการทำสีใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนสีด้วยฟิล์มครอบรถจะช่วยให้รถมีสีใหม่ทันทีและไม่เสียเวลาในการทำสี

  • ราคาประมาณ: ราคาของการหุ้มฟิล์มรถจะเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 บาทสำหรับรถขนาดเล็ก และอาจสูงถึง 30,000-50,000 บาทสำหรับรถขนาดใหญ่ เช่น รถกระบะหรือ SUV
  • ข้อดี: ราคาถูกกว่าการทำสีใหม่, ฟิล์มสามารถเปลี่ยนลวดลายหรือสีได้ง่าย, ฟิล์มช่วยปกป้องสีเดิมของรถจากแสงแดดและรอยขีดข่วน
  • ข้อเสีย: ฟิล์มอาจไม่ทนทานเท่ากับสีรถที่ทำจากการทาสีใหม่, หากเลือกฟิล์มราคาถูกอาจทำให้สีซีดเร็ว

ราคาสีที่ใช้ในการเปลี่ยนสี

การเลือกสีหรือฟิล์มสำหรับการเปลี่ยนสีรถมีผลต่อราคาเป็นอย่างมาก โดยสีที่ใช้ในกระบวนการทำสีหรือฟิล์มครอบรถบางประเภทจะมีราคาที่สูงกว่าปกติ เช่น สีมุก สีเพิร์ล หรือสีที่มีลวดลายพิเศษ

  • สีธรรมดา: ราคาจะต่ำกว่าสีที่มีคุณสมบัติพิเศษ
  • สีมุกและสีเพิร์ล: มีราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากกระบวนการผลิตสีที่ซับซ้อนมากขึ้น
  • ฟิล์มลายกราฟิกหรือฟิล์มพิเศษ: ราคาสูงเช่นกันขึ้นอยู่กับลวดลายและคุณภาพของฟิล์ม

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การเปลี่ยนสีรถยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เจ้าของรถต้องเตรียมไว้ เช่น

  • ค่าประกันภัย (หากมีการปรับใหม่)
  • ค่าจัดส่งรถไปยังร้านทำสี (กรณีที่คุณเลือกใช้บริการอู่ทำสีที่อยู่ไกล)
  • ค่าทำความสะอาดรถหรือบำรุงรักษา หากคุณทำสีใหม่หรือฟิล์มเปลี่ยน

เคล็ดลับและข้อแนะนำ

  1. เลือกอู่ทำสีที่มีคุณภาพ
    อู่หรือร้านที่มีประสบการณ์จะช่วยลดปัญหา เช่น สีลอก สีซีด หรือการทำสีไม่เรียบเนียน
  2. ตรวจสอบสีใหม่ให้ตรงกับความต้องการ
    ก่อนส่งรถเข้าอู่ ควรสอบถามเรื่องตัวอย่างสีให้แน่ชัด และตรวจสอบให้ละเอียดก่อนรับรถกลับ
  3. แจ้งขนส่งทันทีเมื่อรถเสร็จ
    วางแผนการแจ้งขนส่งไว้ล่วงหน้า หากคุณยุ่งเกินไป ควรมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
  4. เก็บเอกสารใบเสร็จจากอู่
    เพื่อป้องกันปัญหาเอกสารไม่ครบในวันที่แจ้งขนส่ง ควรขอเอกสารรับรองจากอู่ทำสีทุกครั้ง

 

สรุป

การเปลี่ยนสีรถไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางกฎหมายที่เจ้าของรถต้องปฏิบัติ การแจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณใช้รถได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาทางกฎหมาย อย่าลืมว่า การแจ้งเปลี่ยนสีรถต้องทำภายใน 7 วันหลังการเปลี่ยนสีเสร็จ เพื่อป้องกันการเสียค่าปรับ การเตรียมเอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วนจะช่วยให้ขั้นตอนทุกอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

 

อ่านบทความเกี่ยวกับเปลี่ยนสีรถเพิ่มเติม

กฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *