การเปลี่ยนสีรถยนต์เป็นการตัดสินใจที่หลายคนกำลังสนใจ เพราะสามารถทำให้รถของคุณดูสดใหม่และมีสไตล์ที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้น แต่ก่อนที่คุณจะไปเปลี่ยนสีรถ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่คุณต้องเตรียมตัวก่อน Wrap รถยนต์ อย่างเช่น เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกี่วัน ที่ควรรู้เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด

 

8 สิ่งที่ควรรู้เพื่อให้คุ้มค่าที่สุด

1. ตรวจสอบกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนการเปลี่ยนสีรถ คือกฎหมาย เนื่องจากการเปลี่ยนสีรถที่มีผลต่อการจดทะเบียนรถยนต์นั้นต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกทราบถึงการเปลี่ยนแปลง การไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้คุณถูกปรับได้ตามกฎหมาย ดังนั้นการตรวจสอบและแจ้งเปลี่ยนสีรถในสมุดคู่มือรถจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

2. เลือกสีที่ใช่

การเลือกสีเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังควรคำนึงถึงการบำรุงรักษาและความทนทานของสีด้วย บางสีอาจสกปรกง่ายและต้องดูแลรักษามากกว่าสีอื่น เช่น สีขาวหรือสีดำที่มักจะแสดงคราบและรอยขีดข่วนชัดเจน ในขณะที่สีเงินหรือสีเทาอาจบำรุงรักษาง่ายกว่า

นอกจากนี้ คุณควรเลือกสีที่ตรงกับสไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสีที่ดูหรูหรา เช่น สีดำเงาหรือสีเงินเมทัลลิก หรือสีที่ดูสดใสและเป็นเอกลักษณ์ เช่น สีแดง สีฟ้า หรือแม้กระทั่งสีเหลือง

 

3. การเตรียมงบประมาณ

การเปลี่ยนสีรถมีค่าใช้จ่ายหลากหลาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสีและการติดตั้ง หากคุณต้องการให้รถของคุณดูเหมือนใหม่ด้วยงานสีที่มีคุณภาพ ค่าใช้จ่ายอาจสูงได้ โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนสีรถนั้นมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถและวัสดุที่ใช้

นอกจากนี้ คุณควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าการทำความสะอาดผิวก่อนการทาสี ค่าการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจพบระหว่างการเปลี่ยนสีรถ เป็นต้น

 

4. เลือกช่างที่มีประสบการณ์

การเปลี่ยนสีรถไม่ใช่สิ่งที่ควรทำแบบลวกๆ เพราะหากการทาสีไม่ดี สีอาจหลุดลอกหรือซีดเร็ว การเลือกช่างที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียงดีในการทำงานจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนสีรถจะออกมาสวยงามและทนทาน ควรสอบถามเกี่ยวกับการรับประกันผลงานและตรวจสอบรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้านี้เพื่อให้แน่ใจว่าช่างที่คุณเลือกมีมาตรฐาน

 

5. การเตรียมรถก่อนทำสี

ก่อนที่จะนำรถไปทำสี ควรล้างทำความสะอาดรถให้เรียบร้อย การทำความสะอาดจะช่วยให้ช่างสามารถเห็นรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือปัญหาต่างๆ ที่อาจต้องแก้ไขก่อนทำสี นอกจากนี้ หากมีส่วนที่เสียหายอยู่ ควรแจ้งช่างเพื่อที่ช่างจะได้ทำการซ่อมแซมก่อนเริ่มทาสี เพื่อให้การทำงานนั้นสมบูรณ์แบบและสีติดแน่นทนทาน

 

6. การดูแลรักษาหลังการเปลี่ยนสี

หลังจากที่เปลี่ยนสีรถเรียบร้อยแล้ว การดูแลรักษาสีใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ สีใหม่จะคงทนและสวยงามได้หากคุณทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอ ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่รุนแรง และหลีกเลี่ยงการจอดรถในที่ร้อนจัดหรือที่มีแดดแรงโดยตรงเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบเป็นระยะๆ ว่ามีรอยขีดข่วนหรือไม่ เพื่อให้สีรถคงทนและดูใหม่อยู่เสมอ

 

7. ประเภทของสีและการเคลือบสี

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้ก่อนการเปลี่ยนสีรถ คือประเภทของสีที่สามารถเลือกได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีหลายประเภทให้เลือก เช่น สีอะคริลิค สีเมทัลลิก หรือสีพ่นแบบธรรมดา นอกจากนี้ ยังมีการเคลือบสีหรือ Wrap ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสีรถแต่ไม่ต้องการทำการพ่นสีใหม่ทั้งหมด โดย Wrap สามารถลอกออกได้โดยไม่ทำลายสีรถเดิม

 

8. การ Wrap รถยนต์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีรถแต่ไม่อยากให้มีการทาสีถาวร การ Wrap รถเป็นทางเลือกที่ดี การ Wrap คือการติดฟิล์มสีบนผิวรถ ซึ่งสามารถลอกออกได้เมื่อไม่ต้องการ โดยไม่ทำลายสีเดิมของรถ การ Wrap มีข้อดีคือสามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลาย และสามารถเปลี่ยนสีหรือดีไซน์ตามใจชอบได้อย่างรวดเร็ว

 

การเปลี่ยนสีรถตามกฎหมายต้องทำอย่างไรบ้าง ? เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกี่วัน ?

หลังจากที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนสีรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสีทั้งหมดหรือแค่บางส่วน คุณจะต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกทราบ เนื่องจากกฎหมายระบุว่า การเปลี่ยนสีรถถือเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะของรถ การไม่แจ้งอาจส่งผลให้ข้อมูลในทะเบียนรถไม่ตรงกับข้อมูลจริง และจะเกิดปัญหาเมื่อต้องตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่น การต่อทะเบียนรถ การขายรถ หรือการตรวจสภาพรถ ซึ่งมีขั้นตอนการแจ้งการเปลี่ยนแปลงสีรถดังนี้:

เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มทะเบียนรถ) ตัวจริง
2. บัตรประชาชนของเจ้าของรถ (กรณีที่เป็นบริษัทต้องใช้หนังสือรับรองบริษัท)
3. ใบเสร็จรับเงินค่าทำสีจากอู่ทำสี เพื่อยืนยันว่ามีการเปลี่ยนแปลงสีจริง
4. ใบตรวจสภาพรถยนต์จากอู่ทำสี

ขั้นตอนการแจ้งการเปลี่ยนแปลงสีรถ

• เตรียมเอกสารทั้งหมดที่ระบุข้างต้น และนำรถไปยังสำนักงานกรมการขนส่งทางบกในพื้นที่ที่รถจดทะเบียน
• เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารและตรวจสอบสภาพรถเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง
• จ่ายค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนสีรถ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์และพื้นที่ที่ทำการแจ้งเปลี่ยนแปลง (โดยทั่วไปค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท)
• กรมการขนส่งทางบกจะทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลงสีลงในสมุดทะเบียนรถ

 

เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกี่วัน ?

ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก การเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์จะต้องแจ้งภายใน 7 วันหลังจากที่ทำการเปลี่ยนสีเรียบร้อย หากไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงสีรถภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย และอาจถูกปรับได้ นอกจากนี้ การแจ้งการเปลี่ยนสีรถไม่เพียงแต่ช่วยให้ข้อมูลในทะเบียนรถถูกต้อง แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การต่อทะเบียน การขายรถ หรือการตรวจสภาพรถอีกด้วย

 

เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกี่วัน

การแจ้งการเปลี่ยนสีรถเป็นการทำให้ข้อมูลในสมุดทะเบียนรถตรงกับสภาพจริงของรถ เพื่อให้การตรวจสอบเอกสารทำได้ง่ายและไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ยังเป็นการทำให้ผู้ใช้รถปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ในกรณีที่ต้องมีการซื้อขายรถ หรือการตรวจสอบเอกสารโดยเจ้าหน้าที่ เช่น การขอต่อภาษี การขอต่อทะเบียนรถ และการตรวจสภาพรถ

หากไม่แจ้งการเปลี่ยนสีรถยนต์ ข้อมูลในทะเบียนรถอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งจะทำให้เจ้าของรถอาจประสบปัญหาต่าง ๆ ได้ เช่น ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ หรืออาจต้องเผชิญกับการปรับหากเจ้าหน้าที่พบข้อมูลไม่ตรงกัน

 

ข้อดีของการเปลี่ยนสีรถ

การเปลี่ยนสีรถไม่เพียงแต่ทำให้รถของคุณดูใหม่ขึ้น แต่ยังสามารถเพิ่มความโดดเด่นและความสวยงามตามสไตล์ของเจ้าของรถได้ บางครั้งการเปลี่ยนสีรถยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับรถได้อีกด้วย โดยเฉพาะหากคุณเลือกใช้สีที่เป็นที่นิยมในตลาด นอกจากนี้ หากสีเดิมของรถมีรอยขีดข่วนหรือซีดลง การเปลี่ยนสีรถใหม่จะช่วยซ่อนความเสียหายและทำให้รถดูใหม่ขึ้น อีกทั้งการเลือกสีที่โดดเด่น หรือ แตกต่างจากเดิมยังช่วยให้รถของคุณดูโดดเด่นมากขึ้นบนท้องถนน และเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

 

การเลือกอู่ที่เชื่อถือได้

การเปลี่ยนสีรถ เป็นการลงทุน ที่ต้องการฝีมือ และ ความเชี่ยวชาญของช่าง หากเลือกอู่ ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้สีไม่เรียบเนียน หรือ มีปัญหาในระยะยาว เช่น สีลอก สีซีด หรือ รอยขีดข่วน ที่เกิดจากการทำงานไม่ประณีต ดังนั้น การเลือกอู่ทำสี ที่มีประสบการณ์ และ รีวิวดีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า รถของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดี นอกจากนี้ การเลือกใช้สีที่มีคุณภาพ จะทำให้สีทนนาน และ ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีกว่า

 

การป้องกันรอยขีดข่วนหลังเปลี่ยนสีรถ

หลังจาก เปลี่ยนสีรถใหม่แล้ว คุณอาจต้องการดูแลรถของคุณ ให้ยังดูใหม่ และ เงางามเป็นเวลานาน การติดฟิล์มใสกันรอย จะช่วยปกป้องสีรถ จากรอยขีดข่วน และ สิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันรังสี UV ที่อาจทำให้สีรถซีดลงได้ ดังนั้น หากคุณต้องการดูแลรถของคุณให้ดูใหม่อยู่เสมอ การติดฟิล์มใสกันรอยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

 

ความสำคัญของการเลือกสีที่ถูกต้อง

การเลือกสีที่ถูกต้อง สำหรับการเปลี่ยนสีรถ เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากบางสี อาจมีข้อกำหนดพิเศษ จากกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะ สีที่เกี่ยวข้องกับ การใช้รถยนต์ ในหน้าที่พิเศษ เช่น รถพยาบาล รถกู้ภัย หรือ รถที่ใช้ในองค์กร ที่มีการกำหนดสีเฉพาะ นอกจากนี้ การเลือกสี ที่สอดคล้องกับ การใช้งานในชีวิตประจำวัน ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน หากคุณใช้รถ ในเมือง ที่มีแสงแดดจัด การเลือกสี ที่สามารถสะท้อนแสง และ ความร้อนได้ดี จะช่วยให้คุณขับขี่ ได้สบายขึ้น และ ยังช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ

 

การเปลี่ยนสีรถไม่เพียงแต่ ทำให้รถของคุณดูใหม่ และ สวยงามขึ้น แต่ยังต้องปฏิบัติตาม ข้อกำหนดทาง กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ข้อมูล ในสมุดทะเบียนรถถูกต้อง และ ไม่มีปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้ การดูแลรถ หลังจากเปลี่ยนสี โดยการติดฟิล์มใสกันรอย และ เลือกสีที่ถูกต้องจะช่วยให้รถของคุณ ดูสวยงาม และ เงางามอยู่เสมอ และ การเปลี่ยนสีรถเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณต้องการให้รถของคุณดูใหม่ และ สวยงาม แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ควรตรวจสอบให้ละเอียด ทั้ง กฎหมาย งบประมาณ และ การเลือกช่างที่มีประสบการณ์ เพื่อให้การเปลี่ยนสีรถของคุณ ออกมาดีที่สุด

 

อ่านบทความเกี่ยวกับเปลี่ยนสีรถเพิ่มเติม

กฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ