ใครที่เพิ่งทำสีรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ หรือคิดจะเปลี่ยนสีรถให้สวยเท่ โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม คงจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย แต่หลังจากที่รถของเราสวยงามถูกใจแล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการแจ้งเปลี่ยนสีรถกับทางขนส่ง! ฟังดูอาจจะน่ากังวลใช่ไหมครับ? แต่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะขั้นตอนการ แจ้ง เปลี่ยน สี รถ มอเตอร์ไซค์ ที่ขนส่งง่ายกว่าที่คุณคิดมาก วันนี้เราจะพาคุณไปดูวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ง่าย ไม่ซับซ้อน มาเริ่มกันเลย
ทำไมต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถ?
ก่อนอื่น หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถกับขนส่งด้วย ทำสีใหม่แล้วขับไปเลยไม่ได้หรอ? คำตอบคือ “ไม่ได้นะครับ” ตามกฎหมาย หากเรามีการเปลี่ยนสีรถที่ต่างจากสีเดิม จะต้องแจ้งขนส่งภายใน 7 วัน เพื่อให้ข้อมูลในทะเบียนรถของเราถูกต้อง เพราะถ้าไม่แจ้งอาจโดนปรับได้!
การแจ้งเปลี่ยนสีรถจะช่วยให้ข้อมูลของรถในระบบตรงกับสภาพรถปัจจุบัน เช่น ถ้าคุณเปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์สีแดงเป็นสีดำ แต่ในทะเบียนยังเป็นสีแดงอยู่ ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบ อาจทำให้เกิดความสับสนหรือปัญหาตามมาได้ เช่น ถูกเข้าใจว่าเป็นรถที่ถูกนำไปดัดแปลงหรือลักลอบใช้งาน
เริ่มยังไง? เตรียมตัวไป แจ้ง เปลี่ยน สี รถ มอเตอร์ไซค์
การแจ้งเปลี่ยนสีรถที่ขนส่งไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนคิด สิ่งสำคัญคือการเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้คือรายการเอกสารที่ต้องเตรียม:
เอกสารที่ต้องใช้
- คู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน): สิ่งนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ต้องใช้ทุกครั้งในการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถ
- บัตรประชาชน: ใช้ยืนยันตัวตนของเจ้าของรถ
- สำเนาบัตรประชาชน: เตรียมไว้สำรองอย่างน้อย 1 ชุด
- ใบเสร็จค่าเปลี่ยนสี (ถ้ามี): ถ้าคุณไปทำสีรถที่อู่หรือร้านรับทำสี ควรเก็บใบเสร็จไว้ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่อาจขอหลักฐานการเปลี่ยนสีรถ
ขั้นตอน แจ้ง เปลี่ยน สี รถ มอเตอร์ไซค์ ที่ขนส่ง
เมื่อถึงที่สำนักงานขนส่งแล้ว ขั้นตอนต่างๆ จะง่ายและไม่ซับซ้อน ตามนี้เลย:
- เดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์: เมื่อคุณไปถึงขนส่ง ขั้นแรกให้ตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการแจ้งเปลี่ยนสีรถ เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำว่าต้องไปที่ช่องไหน หรือยื่นเอกสารอะไรบ้าง
- ยื่นเอกสาร: เมื่อทราบจุดที่ต้องไปยื่นเอกสารแล้ว ให้คุณนำเอกสารทั้งหมดที่เตรียมมายื่นให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วยเล่มทะเบียนรถ บัตรประชาชน สำเนาบัตรประชาชน และใบเสร็จค่าเปลี่ยนสี (ถ้ามี)
- ตรวจสภาพรถ: หลังจากยื่นเอกสารแล้ว เจ้าหน้าที่อาจขอให้คุณนำรถไปตรวจสภาพเล็กน้อย เพื่อเช็กว่าสีรถตรงกับที่แจ้งหรือไม่ การตรวจสภาพนี้ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน
- ชำระค่าธรรมเนียม: เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ประมาณ 50-100 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละขนส่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสีรถในระบบให้
- รับเอกสารคืน: หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมเสร็จ เจ้าหน้าที่จะคืนเล่มทะเบียนรถที่อัปเดตข้อมูลสีรถใหม่ให้คุณ พร้อมบันทึกในระบบเสร็จสิ้น คุณก็สามารถขับรถกลับบ้านได้เลย!
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ไปเช้าๆ จะดีที่สุด: ขนส่งมักมีคนเยอะ หากไปในช่วงสายหรือบ่าย อาจต้องรอคิวนาน ฉะนั้น การไปแต่เช้าจะช่วยให้คุณเสร็จเร็วขึ้น
- ตรวจสอบเอกสารให้ครบ: ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมเช็กว่าเอกสารทุกอย่างที่ต้องใช้เตรียมครบถ้วนแล้ว เช่น เล่มทะเบียน บัตรประชาชน สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
- เตรียมเงินให้พร้อม: แม้จะเป็นค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่ก็อย่าลืมเตรียมเงินสดไปด้วย เพราะบางขนส่งอาจไม่รับบัตรเครดิตหรือโอนเงิน
ทำไมการแจ้งเปลี่ยนสีรถถึงสำคัญ?
หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าเปลี่ยนสีรถแล้วไม่แจ้งจะเกิดอะไรขึ้น? การไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถตามกฎหมายอาจส่งผลให้คุณต้องเสียค่าปรับได้ ปกติแล้วค่าปรับอาจอยู่ที่ไม่เกิน 2,000 บาท แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ความเสี่ยงที่คุณอาจเผชิญหากข้อมูลไม่ตรงกับทะเบียนรถ เช่น การโดนตรวจสอบในกรณีที่เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเป็นรถที่ถูกนำไปดัดแปลงหรือลักลอบใช้
การแจ้งเปลี่ยนสีรถช่วยให้คุณอุ่นใจมากขึ้น เพราะข้อมูลที่ตรงกันระหว่างทะเบียนและสภาพรถจริงจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังเป็นการรับรองว่ารถของคุณถูกใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย
ประเด็นที่สำคัญก่อนตัดสินใจแจ้งเปลี่ยนสีรถมอเตอร์ไซค์
การเลือกสีรถที่เหมาะกับคุณ
หลายคนอาจจะคิดว่าการเปลี่ยนสีรถเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนลุคของรถให้สวยขึ้นหรือเป็นการปรับให้เข้ากับความชอบของตัวเอง แต่คุณรู้ไหมว่าการเลือกสีรถยังสามารถส่งผลต่อความรู้สึก การขับขี่ และในบางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับความเชื่อส่วนบุคคลด้วย! เช่น คนที่มีความเชื่อทางด้านโชคลางหรือสายมูเตลู มักจะเลือกสีรถตามวันเกิดหรือสีที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้
สีไหนที่เหมาะกับคุณ?
- สีขาวหรือสีเงิน: สีขาวและสีเงินมักจะเป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศไทย เพราะเป็นสีที่ดูสะอาดตา และยังมีความเป็นกลาง เหมาะกับคนที่ต้องการรถที่ดูเรียบหรู
- สีดำ: สีดำเป็นสีที่ให้ความรู้สึกแข็งแรง โดดเด่น และดูดุดัน แต่ข้อเสียคือ อาจจะทำให้เห็นรอยขีดข่วนหรือฝุ่นง่ายขึ้น
- สีแดง: สีแดงมักจะเป็นสีที่แสดงถึงพลัง ความโดดเด่น และดึงดูดสายตา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรถที่ดูสดใสและไม่ซ้ำใคร
- สีเหลืองหรือสีส้ม: สองสีนี้มักจะให้ความรู้สึกสดใส มีพลัง เหมาะกับคนที่ต้องการรถที่มีความสดชื่น หรือชอบความสนุกสนาน
- สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน: ให้ความรู้สึกสงบเย็น เหมาะกับคนที่ต้องการรถที่ดูมีความเป็นระเบียบและสงบเงียบ
- สีเขียว: สีเขียวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติและความสดชื่น เหมาะกับคนที่ชอบความแตกต่าง และสีเขียวยังหายากมากในท้องถนนด้วย
การดูแลสีรถหลังการทำสีใหม่
หลังจากที่คุณตัดสินใจทำสีรถใหม่แล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาสีรถให้คงทนและเงางาม การทำสีรถไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการเลือกสีเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการรักษาความเงางามและป้องกันสีซีดจางในอนาคตด้วย ต่อไปนี้คือเทคนิคการดูแลสีรถหลังการทำสีใหม่:
- หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดด: แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สีรถซีดจางเร็วขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแดดแรง การจอดรถในที่ร่มหรือใช้ผ้าคลุมรถจะช่วยยืดอายุสีรถได้
- ล้างรถเป็นประจำ: การล้างรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยล้างคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวรถ และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยรักษาความเงางามของสีรถ
- ขัดสีรถเป็นระยะ: การขัดสีรถจะช่วยให้สีรถดูเงางามและใหม่อยู่เสมอ การขัดสีจะช่วยลบรอยขีดข่วนเล็กน้อยและคราบสกปรกที่ติดแน่นบนผิวรถ
- เคลือบสีรถ: การเคลือบสีรถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปกป้องสีรถจากการซีดจาง และยังช่วยให้รถดูเงางามยิ่งขึ้นด้วย
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายและการเปลี่ยนสีรถ
การเปลี่ยนสีรถแบบบางส่วนจำเป็นต้องแจ้งขนส่งหรือไม่?
บางคนอาจจะสงสัยว่า หากเราเปลี่ยนสีรถ แค่บางส่วน เช่น การติดสติ๊กเกอร์บางจุด หรือ ทำสีล้อ ต้องแจ้งขนส่งด้วยหรือไม่? ตามกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสี ที่มีผลต่อโทนสีหลักของรถ เช่น สีตัวถังหลัก คุณจำเป็นต้องแจ้งขนส่ง แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยน แค่เล็กน้อย เช่น การติดสติ๊กเกอร์ตกแต่ง หรือ การเปลี่ยนสีในส่วนที่ไม่ใช่ตัวถังหลัก การแจ้งขนส่ง อาจไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากสำนักงานขนส่ง เพื่อความชัดเจน
กรณีไม่แจ้งเปลี่ยนสีภายใน 7 วัน จะเกิดอะไรขึ้น?
หากคุณ ไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถภายใน 7 วันตามที่กฎหมายกำหนด คุณอาจถูกปรับได้ ซึ่งค่าปรับ อาจสูงถึง 2,000 บาท ดังนั้น การปฏิบัติ ตามกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณทำสีรถใหม่ อย่าลืมดำเนินการ แจ้งเปลี่ยนสีให้ถูกต้องภาย ในเวลาที่กำหนด
การแจ้งเปลี่ยนสีสำหรับรถยนต์เทียบกับมอเตอร์ไซค์ต่างกันหรือไม่?
แม้ว่าการแจ้งเปลี่ยนสี จะคล้ายกัน ทั้งรถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์ แต่กระบวนการตรวจสภาพรถ อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย ในกรณีของรถมอเตอร์ไซค์ การตรวจสภาพอาจเร็วกว่า และ ไม่ซับซ้อนมากนัก เมื่อเทียบกับรถยนต์ แต่สิ่งสำคัญ คือ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และ ตรวจเช็กข้อมูลจากขนส่งให้ดี
เปลี่ยนสีรถให้ตรงใจ แต่อย่าลืมแจ้งขนส่ง
การเปลี่ยนสีรถ เป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้รถของคุณ ดูสดใหม่ หรือ เพิ่มความโดดเด่น ได้ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะ เปลี่ยนเพราะต้องการ ทำให้รถดูดีขึ้น หรือ เปลี่ยนเพราะอยากให้เหมาะกับ สไตล์ของตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือ การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เพียงแค่แจ้งเปลี่ยนสีรถกับขนส่ง ก็จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าปรับ หรือการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ คุณสามารถขับขี่รถอย่างสบายใจและมั่นใจได้ว่า ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การแจ้ง เปลี่ยนสีรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่ขนส่งเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าขั้นตอนจะยุ่งยาก เพียงแค่เตรียมเอกสารให้ครบ และไปที่ขนส่งตามเวลาที่เหมาะสม คุณก็สามารถเปลี่ยนสีรถได้อย่างง่ายดายและถูกต้องตามกฎหมาย หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจ ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ มากขึ้นนะครับ ถ้ามีคำถาม หรือ สงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถสอบถาม กรมขนส่ง เพื่อข้อมูลที่แน่นอนและครบถ้วนที่สุด
ใส่ความเห็น