เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน

เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกี่วัน เจ้าของรถต้องรู้

เปลี่ยนสีรถให้สวยถูกใจ ถือเป็นเรื่องที่เจ้าของรถหลายคนอยากทำ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพราะอยากปรับลุคใหม่ เพิ่มความเท่ หรือแก้สีเดิมที่ซีดจางจากการใช้งานนานๆ แต่รู้หรือไม่ว่า การเปลี่ยนสีรถไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังต้องแจ้งให้ถูกกฎหมายด้วย! บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ ตั้งแต่ เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน ขั้นตอนการดำเนินการ ไปจนถึงเคล็ดลับเล็กๆ ที่ช่วยให้การเปลี่ยนสีรถของคุณราบรื่นและถูกกฎหมายแบบ 100% พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

 

เปลี่ยนสีแจ้งกี่วัน รวมทุกขั้นตอนที่ต้องรู้

เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน ทำไมต้องแจ้ง?

หลายคนอาจสงสัยว่า เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน เปลี่ยนสีรถแค่สีภายนอก ทำไมต้องแจ้ง? นี่คือเหตุผลหลักๆ:

  1. เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย:
    กฎหมายในประเทศไทยกำหนดไว้ว่าหากคุณเปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกรับทราบภายในระยะเวลาที่กำหนด
  2. ป้องกันปัญหาเวลาใช้งาน:
    ถ้ารถคุณเปลี่ยนสีแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้ง เมื่อเจอด่านตรวจหรือเกิดอุบัติเหตุ คุณอาจถูกสงสัยว่ารถคันนี้ถูกขโมยหรือเป็นรถผิดกฎหมาย
  3. อัพเดตข้อมูลในเล่มทะเบียน:
    การแจ้งเปลี่ยนสีช่วยให้ข้อมูลในเล่มทะเบียนตรงกับสภาพรถจริง ซึ่งสำคัญมากเวลาต่อทะเบียนหรือขายรถในอนาคต

 

เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน 

เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน ตามกฎหมายไทย หากคุณเปลี่ยนสีรถ (ทั้งเปลี่ยนสีทั้งคันหรือเปลี่ยนบางส่วนเกิน 30% ของตัวรถ) คุณต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงกับกรมการขนส่งทางบก ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนสีรถเสร็จสิ้น

หากแจ้งล่าช้า คุณอาจถูกปรับตามกฎหมาย สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ดังนั้น อย่าลืมรีบจัดการให้เรียบร้อยหลังเปลี่ยนสีรถเสร็จ!

 

ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

การแจ้งเปลี่ยนสีรถไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่คุณควรรู้:

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

เอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้:

  • เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริง)
  • สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
  • ใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีจากอู่หรือร้านที่ทำการเปลี่ยนสีรถ
  • ใบมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ไปดำเนินการด้วยตัวเอง)

2. เดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง

ไปที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่ของคุณ โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

3. ชำระค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมการแจ้งเปลี่ยนสีรถโดยประมาณ:

  • ค่าดำเนินการ: 50-100 บาท
  • ค่าคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล: 10-50 บาท

รวมๆ แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทเท่านั้น ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับค่าปรับหากคุณล่าช้า!

4. รอการอัพเดตข้อมูล

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและข้อมูลเรียบร้อย จะทำการอัพเดตข้อมูลในเล่มทะเบียน และมอบเล่มคืนให้คุณ เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

เปลี่ยนสีทั้งคัน vs เปลี่ยนบางส่วน

การเปลี่ยนสีรถมีหลายรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อการแจ้งเปลี่ยนสีด้วย มาดูความต่างกัน:

  1. เปลี่ยนสีทั้งคัน:
    หากคุณเปลี่ยนสีรถทั้งคัน เช่น จากสีขาวเป็นสีดำ ต้องแจ้งแน่นอน เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจน
  2. เปลี่ยนสีบางส่วน (เกิน 30%):
    หากคุณเปลี่ยนแค่บางส่วน เช่น เปลี่ยนสีฝากระโปรง หรือเปลี่ยนเฉพาะหลังคา และพื้นที่นั้นเกิน 30% ของตัวรถ ก็ต้องแจ้งเช่นกัน
  3. เปลี่ยนสีเล็กน้อย (ไม่เกิน 30%):
    ถ้าคุณเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น ติดสติกเกอร์บางจุด หรือเปลี่ยนสีที่ไม่เกิน 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องแจ้ง

เคล็ดลับสำหรับเปลี่ยนสีรถ

1. เลือกอู่หรือร้านที่ไว้ใจได้

อู่ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้การเปลี่ยนสีรถของคุณออกมาสวยงามและไม่มีปัญหาด้านเอกสาร

2. เก็บใบเสร็จไว้เสมอ

ใบเสร็จจากอู่เป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ยื่นเอกสารที่ขนส่ง อย่าลืมขอใบเสร็จทุกครั้งที่เปลี่ยนสีรถ

3. อย่าลืมเช็กสีใหม่ให้ละเอียด

หลังเปลี่ยนสีเสร็จ ลองตรวจดูว่าสีเรียบเนียน ไม่มีจุดบกพร่อง และตรงกับที่คุณต้องการหรือไม่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

Q: ถ้าเปลี่ยนสีรถแต่ลืมแจ้ง จะเกิดอะไรขึ้น?
A: คุณอาจถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท และอาจประสบปัญหาเวลาต่อทะเบียนหรือตรวจสภาพรถ

Q: การติดสติกเกอร์เปลี่ยนสีรถต้องแจ้งไหม?
A: ถ้าติดสติกเกอร์ที่เปลี่ยนสีและครอบคลุมพื้นที่เกิน 30% ของตัวรถ ต้องแจ้งเช่นกัน

Q: สามารถแจ้งเปลี่ยนสีรถออนไลน์ได้ไหม?
A: ปัจจุบันการแจ้งเปลี่ยนสีรถยังต้องไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น

ผลกระทบของการเปลี่ยนสีรถต่อมูลค่ารถ

หลายคนอาจคิดว่าการเปลี่ยนสีรถจะช่วยเพิ่มมูลค่า แต่ในบางกรณีอาจทำให้รถมีราคาลดลงเมื่อขายต่อ เพราะเหตุผลดังนี้:

  1. สีเดิมจากโรงงานมีมูลค่าสูงกว่า
    สีที่ออกมาจากโรงงาน จะถูกมองว่ามีมาตรฐาน และทนทานกว่าสีที่พ่นใหม่ แม้คุณจะเลือกอู่ที่มีฝีมือดีแค่ไหน สีที่ทำใหม่ก็อาจไม่สมบูรณ์แบบเท่ากับสีจากโรงงาน และบางครั้งผู้ซื้ออาจสงสัยว่าทำไมต้องเปลี่ยนสี อาจคิดว่าเกิดอุบัติเหตุหรือมีปัญหาก่อนหน้านี้
  2. สีที่ไม่เป็นที่นิยมอาจขายต่อยาก
    หากคุณเปลี่ยนสีรถ เป็นสีที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เช่น สีเขียวมะนาว หรือสีชมพูสด อาจทำให้ขายต่อยากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อทั่วไปมักชอบสีพื้นฐาน เช่น ขาว ดำ เทา หรือเงิน
  3. การเปลี่ยนสีอาจบ่งบอกถึงอุบัติเหตุ
    ในตลาดรถมือสอง ผู้ซื้อบางคนอาจตั้งคำถามว่า รถเคยประสบอุบัติเหตุจ นต้องเปลี่ยนสีหรือไม่ หากไม่มีข้อมูลยืนยันที่ชัดเจน อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรถ

วิธีดูแลรถหลังเปลี่ยนสีใหม่

หลังจากเปลี่ยนสีรถเรียบร้อยแล้ว การดูแลรักษาสีใหม่เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้รถดูสวยเงางามไปนาน ๆ นี่คือเคล็ดลับที่ควรรู้:

  1. หลีกเลี่ยงการล้างรถทันทีหลังเปลี่ยนสี
    หลังเปลี่ยนสี ควรรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนล้างรถ เพื่อให้สีเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์ หากล้างเร็วเกินไป อาจทำให้สีเสียหายหรือไม่ติดทน
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสีโดยเฉพาะ
    เลือกใช้น้ำยาล้างรถและแว็กซ์ที่ออกแบบมาสำหรับการดูแลสีรถโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้สีหลุดลอกหรือซีดเร็ว
  3. หลีกเลี่ยงการจอดกลางแดด
    แสงแดดจัดสามารถทำให้สีซีดจางเร็วขึ้น ควรจอดรถในที่ร่มหรือใช้ผ้าคลุมรถช่วยป้องกัน
  4. ล้างรถเป็นประจำ
    ฝุ่น คราบน้ำ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ อาจทำให้สีหมองลงได้เร็ว หากปล่อยไว้นาน ดังนั้นควรล้างรถอย่างสม่ำเสมอ

เปลี่ยนสีรถแบบไหนต้องระวัง?

แม้การเปลี่ยนสีรถจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ:

  1. เปลี่ยนสีเป็นลายกราฟิกหรือสติกเกอร์เต็มคัน
    หากคุณใช้วิธีการเปลี่ยนสีด้วยการติดสติกเกอร์เต็มคัน (Wrap) หรือทำลวดลายกราฟิกแปลกตา คุณอาจต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า สติกเกอร์นั้นสามารถลอกออกได้ง่ายโดยไม่ทำลายสีเดิม และควรแจ้งเปลี่ยนสีในกรณี ที่สติกเกอร์ครอบคลุมพื้นที่เกิน 30% ของตัวรถ
  2. เปลี่ยนสีแบบไม่มีมาตรฐาน
    การเลือกอู่หรือร้านที่ไม่มีมาตรฐานอาจ ทำให้สีใหม่หลุดลอกเร็ว หรือเกิดปัญหาในระยะยาว เช่น สีพองตัว หรือมีรอยฟองอากาศ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้
  3. เปลี่ยนสีรถที่มีผลต่อการสะท้อนแสง
    การเปลี่ยนสีรถให้เป็นสีที่สะท้อนแสงมาก ๆ เช่น สีโครเมียมหรือสีเมทัลลิก อาจไม่ถูกกฎหมายในบางพื้นที่ และอาจรบกวนสายตา ของผู้ขับขี่คนอื่นบนถนน

การเปลี่ยนสีรถไฟฟ้าหรือรถหรู

สำหรับเจ้าของรถไฟฟ้าหรือรถหรู การเปลี่ยนสีรถอาจมีรายละเอียด ที่ต้องคำนึงถึงมากกว่ารถทั่วไป เช่น:

  • การรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า:
    หากเปลี่ยนสีโดยการ Wrap หรือพ่นสี ต้องระวังอย่าให้กระทบกับระบบไฟฟ้าของรถ
  • ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า:
    รถหรูหรือรถไฟฟ้ามักมีขนาดใหญ่หรือใช้วัสดุที่ต้องการความประณีตเป็นพิเศษ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสีสูงกว่ารถทั่วไป

เคล็ดลับเปลี่ยนสีรถให้คุ้มค่า

  1. เลือกสีที่ตรงใจระยะยาว
    การเปลี่ยนสีรถเป็นการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณสูง ดังนั้นควรเลือกสีที่คุณชอบจริง ๆ และสามารถใช้งานได้ในระยะยาวโดยไม่เบื่อ
  2. ตรวจสอบความเข้ากันของสีใหม่กับสีภายใน
    หากคุณเปลี่ยนสีภายนอก ควรคำนึงถึงความเข้ากันของสีภายใน เช่น เบาะและแดชบอร์ด เพื่อให้รถดูสวยลงตัว
  3. เปรียบเทียบราคาหลายร้าน
    ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนสีรถ ควรสอบถามราคาและดูรีวิวงานของร้านต่าง ๆ เพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่าและมีคุณภาพ

สรุป เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน

การเปลี่ยนสีรถ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความถูกต้อง ตามกฎหมายด้วย คุณต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงกับกรมการขนส่งทางบก ภายใน 7 วัน เพื่อป้องกันปัญหาและค่าปรับที่ไม่จำเป็น

เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม ดำเนินการตามขั้นตอนที่แนะนำ และอย่าลืมเลือกอู่ที่ไว้ใจได้ คุณก็สามารถเปลี่ยนสีรถได้อย่างมั่นใจ สวยงาม และถูกกฎหมายแน่นอน! 

 

อ่านบทความเกี่ยวกับเปลี่ยนสีรถเพิ่มเติม

กฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *