การเปลี่ยนสีรถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับลุคและเพิ่มความสดใหม่ให้กับรถของคุณ ไม่ว่าจะเพื่อความสวยงาม ความต้องการเฉพาะตัว หรือเพื่อธุรกิจ แต่สิ่งที่เจ้าของรถทุกคนควรรู้คือ การเปลี่ยนสีรถที่แตกต่างไปจากสีที่จดทะเบียนไว้ในเล่มทะเบียนรถ จำเป็นต้อง แจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย และหลีกเลี่ยงการถูกปรับ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึง แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่ และขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ รวมถึงข้อมูลสำคัญที่คุณต้องรู้
การเปลี่ยนสีรถทำไมต้องแจ้ง
ตามกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ได้ระบุไว้ว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์มากกว่า 30% ของพื้นที่ทั้งหมดของตัวรถ เจ้าของรถต้องแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบกภายใน 7 วัน นับจากวันที่เปลี่ยนแปลง หากไม่แจ้งอาจถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท
การแจ้งเปลี่ยนสีรถไม่เพียงช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่ยังช่วยอัปเดตข้อมูลในทะเบียนรถให้ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเมื่อต้องขายต่อ หรือเมื่อต้องจัดการกับประกันภัยรถยนต์
แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่
การแจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก โดยจะแบ่งออกเป็นค่าธรรมเนียมดังนี้:
- ค่าธรรมเนียมแจ้งเปลี่ยนสีรถ
- ค่าดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสี: 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ
- ค่าตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบก: 50 บาท
- ค่าคำขอ
- ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอเปลี่ยนสี: 5 บาท
แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เมื่อรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถจะอยู่ที่ประมาณ 105 บาท เท่านั้น แต่หากมีขั้นตอนอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจสภาพรถเพิ่มเติมจากศูนย์เอกชน ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นได้ตามเงื่อนไข
เอกสารที่ต้องเตรียม
ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ คุณจำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้ขั้นตอนการดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น:
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มทะเบียนรถ)
- ใช้เล่มทะเบียนตัวจริงในการยื่นเรื่อง
- สำเนาบัตรประชาชน
- กรณีเจ้าของรถเป็นบุคคลธรรมดา
- หากเป็นนิติบุคคล ต้องใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
- หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ
- เช่น ใบเสร็จค่าทำสีจากอู่ หรือร้าน Wrap
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (กรณีที่มีการตรวจสภาพ)
ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
- เตรียมเอกสารทั้งหมด
รวมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เช่น เล่มทะเบียนรถ ใบเสร็จค่าทำสี และบัตรประชาชน - ไปที่สำนักงานขนส่ง
สามารถไปได้ที่กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หรือสำนักงานขนส่งในจังหวัดของคุณ - ยื่นคำขอเปลี่ยนสีรถ
ยื่นคำขอพร้อมเอกสารที่เตรียมไว้ที่แผนกทะเบียนรถ - ตรวจสภาพรถ (ถ้าจำเป็น)
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสีรถใหม่ให้ตรงตามคำขอ - ชำระค่าธรรมเนียม
หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น ให้ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด - รับเอกสารใหม่
เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสิ้น คุณจะได้รับเล่มทะเบียนรถที่อัปเดตสีรถใหม่
คำแนะนำเพิ่มเติมนอกจาก แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่
- แจ้งเปลี่ยนสีรถภายใน 7 วัน
หากคุณเปลี่ยนสีรถแล้ว ควรรีบแจ้งให้ทันภายใน 7 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ - สอบถามเพิ่มเติมก่อนดำเนินการ
หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับขั้นตอน ควรสอบถามเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก หรืออ่านข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ - กรณีรถติดไฟแนนซ์
หากรถยังติดไฟแนนซ์ คุณจะต้องติดต่อกับบริษัทไฟแนนซ์เพื่อขออนุญาตเปลี่ยนสีรถ และนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นต่อกรมการขนส่ง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ
- เปลี่ยนสีเฉพาะบางส่วน
หากการเปลี่ยนสีรถครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 30% ของตัวรถ เช่น การติดสติ๊กเกอร์ตกแต่งเฉพาะส่วน ไม่จำเป็นต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถ - ฟิล์ม Wrap และการเปลี่ยนสี
หากใช้วิธี Wrap รถหรือเปลี่ยนสีด้วยฟิล์ม ต้องแจ้งเปลี่ยนสีเหมือนการทำสีใหม่ - ค่าปรับกรณีไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถ
หากไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถ และถูกตรวจพบ คุณอาจต้องเสียค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท
ประโยชน์ของการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
- ถูกต้องตามกฎหมาย
การแจ้งเปลี่ยนสีรถช่วยให้คุณปฏิบัติตามข้อบังคับ ลดความเสี่ยงที่จะถูกปรับ - เพิ่มความน่าเชื่อถือ
เมื่อต้องขายรถต่อ หรือทำเรื่องประกัน ข้อมูลในเล่มทะเบียนที่ตรงกับความเป็นจริงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและบริษัทประกัน - ลดปัญหากับประกันภัย
หากสีรถไม่ตรงกับที่ระบุในกรมธรรม์ อาจทำให้เกิดปัญหาในการเคลมประกัน
แจ้งเปลี่ยนสีรถกรณีติดไฟแนนซ์
หากรถของคุณยังติดไฟแนนซ์ คุณยังสามารถเปลี่ยนสีรถได้ แต่จะมีขั้นตอนเพิ่มเติม เนื่องจากเล่มทะเบียนรถยังอยู่กับบริษัทไฟแนนซ์ คุณจะต้อง:
- ติดต่อบริษัทไฟแนนซ์
แจ้งให้ไฟแนนซ์ทราบถึงความต้องการเปลี่ยนสีรถ และขอหนังสือยินยอมเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่นคำขอ - รับเอกสารจากไฟแนนซ์
บริษัทไฟแนนซ์จะออกหนังสือยินยอมพร้อมสำเนาเล่มทะเบียนรถเพื่อให้คุณใช้ยื่นเรื่องกับกรมการขนส่ง - ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
นำเอกสารทั้งหมดไปดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถตามปกติ - อัปเดตข้อมูลกับไฟแนนซ์
หลังจากแจ้งเปลี่ยนสีรถแล้ว ให้ส่งข้อมูลที่อัปเดตกลับไปยังบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อให้ข้อมูลในเอกสารสอดคล้องกัน
การแจ้งเปลี่ยนสีรถสำหรับธุรกิจ
รถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เช่น รถขนส่งสินค้า รถบรรทุก หรือรถที่ใช้เพื่อโฆษณา อาจต้องเปลี่ยนสีหรือเพิ่มลวดลายที่แตกต่างไปจากเดิม การแจ้งเปลี่ยนสีรถในกรณีนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และลดปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น:
- การเปลี่ยนสีเพื่อโฆษณา
รถยนต์ที่มีการ Wrap หรือเพิ่มลวดลายสำหรับโฆษณา ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถหากพื้นที่เปลี่ยนแปลงเกิน 30% - การเปลี่ยนสีรถขนส่งสินค้า
หากมีการปรับเปลี่ยนสีเพื่อให้เข้ากับเอกลักษณ์องค์กร การแจ้งเปลี่ยนสีรถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ
ข้อดีของการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
- ลดปัญหาทางกฎหมาย
การแจ้งเปลี่ยนสีรถช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ หรือปัญหาเมื่อขายรถต่อ - เพิ่มมูลค่าในการขายต่อ
รถที่มีเล่มทะเบียนระบุข้อมูลตรงตามความจริงจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และเพิ่มความมั่นใจในสภาพรถ - ลดความยุ่งยากในการเคลมประกัน
หากสีรถตรงกับที่ระบุในกรมธรรม์ จะช่วยให้การเคลมประกันเป็นไปอย่างราบรื่น
กรณีไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถ ผลที่ตามมา
การละเลยไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถอาจส่งผลเสียหลายด้าน:
- ค่าปรับตามกฎหมาย
หากถูกตรวจพบ อาจถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท - ปัญหาในการขายรถต่อ
ผู้ซื้ออาจไม่มั่นใจในประวัติของรถ และลดโอกาสขายได้ในราคาที่ดี - ปัญหากับประกันภัย
หากเกิดอุบัติเหตุ และพบว่าสีรถไม่ตรงกับที่ระบุในกรมธรรม์ อาจทำให้การเคลมประกันซับซ้อน หรือไม่ได้รับการคุ้มครอง
แจ้งเปลี่ยนสีรถในกรณีใช้ Wrap
การ Wrap รถเพื่อเปลี่ยนสีเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเพื่อความสวยงามหรือปกป้องสีรถเดิม แต่การ Wrap ที่ครอบคลุมพื้นที่เกิน 30% ของตัวรถยังต้องแจ้งเปลี่ยนสีเช่นเดียวกับการทำสีใหม่
ข้อดีของการ Wrap รถ
- สามารถลอกออกได้โดยไม่ทำลายสีเดิม
- มีเฉดสีและลวดลายให้เลือกหลากหลาย
- ใช้เวลาติดตั้งน้อยกว่าการทำสีใหม่
สิ่งที่ควรรู้
- แจ้งเปลี่ยนสีรถแม้ใช้ Wrap เพื่อความถูกต้อง
- เก็บใบเสร็จและหลักฐานการ Wrap เพื่อยื่นเรื่องกับกรมการขนส่ง
ขั้นตอนการตรวจสภาพรถ
หากมีการ Wrapสีรถ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า:
- สีรถใหม่ตรงกับคำขอที่ยื่นไว้
- การเปลี่ยนสีไม่มีผลต่อการมองเห็นป้ายทะเบียน
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนที่สำคัญของรถ เช่น โครงสร้างหรือหมายเลขตัวถัง
การตรวจสภาพรถนี้ช่วยรับรองว่ารถของคุณยังคงปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถ แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่
- เปลี่ยนสีบางส่วนไม่ต้องแจ้ง
เช่น การเปลี่ยนสีฝาท้าย หรือฝากระโปรงเพียงจุดเดียว หากพื้นที่เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 30% - การเปลี่ยนสีเพื่อการซ่อมแซม
หากเปลี่ยนสีเพียงบางจุดเพื่อซ่อมแซม ไม่จำเป็นต้องแจ้งเปลี่ยนสี แต่ควรเก็บหลักฐานการซ่อมไว้เผื่อการตรวจสอบ - เปลี่ยนสีแล้วต้องแจ้งประกัน
หากเปลี่ยนสีใหม่ ควรแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่ออัปเดตข้อมูลในกรมธรรม์
การประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แม้ว่าการแจ้งเปลี่ยนสีรถ จะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่จะช่วยคุณประหยัดเงิน ในระยะยาว:
- ลดความเสี่ยงการถูกปรับ
- ป้องกันปัญหากับประกันภัย
- เพิ่มความน่าเชื่อถือเมื่อขายรถต่อ
สรุป แจ้งเปลี่ยนสีรถเท่าไหร่
การแจ้งเปลี่ยนสีรถ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และปฏิบัติตามขั้นตอน ที่กำหนด ค่าใช้จ่าย ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ ก็ไม่ได้สูงมาก เพียง 105 บาท คุณก็สามารถ ทำให้การเปลี่ยนสีรถของคุณ ถูกต้องตามกฎหมาย และไร้ปัญหาในอนาคต ดังนั้น หากคุณมีแผนจะเปลี่ยนสีรถ อย่าลืมดำเนินการ แจ้งเปลี่ยนสีรถ กับกรมการขนส่งทางบก โดยเร็วที่สุด
ใส่ความเห็น